คนเล็กหัวใจใหญ่ 4 ฟุต 10 นิ้ว หรือ 147 ซม. อย่าว่าแต่ว่าเทียบกับนักกีฬาอาชีพเลย เทียบกับหญิงเอเชียปกติก็ยังนับว่าเป็นขนาดตัวที่เล็กจิ๋วอยู่ดี

คนเล็กหัวใจใหญ่ แต่ว่าไม่เชื่อก็ต้องมั่นใจว่าคราวหนึ่งในประวัติศาสตร์แวดวงหมัดมวยโลก เคยมีนักมวยชายหนุ่มที่มีความสูงเท่านี้ และก็ยิ่งอัศจรรย์ไปกว่านั้น ด้วยเหตุว่าเขาไปไกลถึงกับขนาดสามารถคว้าสายรัดเอวแชมป์โลกมาครอบครองได้เสร็จ

ชื่อของเขาเป็นแมตลาลาติดตามเรื่องราวของคนเล็กหัวใจใหญ่ แชมป์โลกผู้มีส่วนสูงต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ถึงที่กะไว้  วิจารณ์มวยไทยวันนี้

ผู้ครอบครองสมญานาม “Baby Jake” กำเนิดตอนวันที่ 1 ส.ค. ปี 1962ในเมืองโซเวโต ประเทศในทวีปแอฟริกาใต้ แล้วก็ถึงจะเติบโตมาในครอบครัวคนผิวดำ แม้กระนั้นชีวิตของ ก็มิได้รันทด กัดก้อนเกลือกิน

จนกระทั่งจำต้องไปสู่โลกที่หมัดมวยเพื่อหาเลี้ยงชีพให้อยู่รอดอะไร การที่บิดาของเขาเป็นพนักงานขับรถบรรทุก ส่วนแม่เป็นคนทำกับข้าวอยู่ในร้านอาหาร รายได้ของครอบครัวก็เลยพอเพียงที่จะเลี้ยงดูเด็กผู้ชายเจให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี

อีกหนึ่งเหตุผลยอดฮิตของบรรดานักมวยมีชื่อเสียง เป็นการฝึกฝนวิชาต่อสู้เพื่อตนเองอดทน ปกป้องการรังแกจากเหล่าอันธพาลในถนนได้ แต่ว่ามันก็ไม่ใช่เหตุผลของ เหมือนกัน เพราะการที่เขาเป็นคนตัวเล็กกว่าเพื่อนร่วมรุ่นมาตั้งแต่เด็ก ทำให้เขารอดพ้นจากเหตุดังกล่าวตลอดมา

คนเล็กหัวใจใหญ่

สิ่งที่นำพาให้ ไปสู่โลกที่หมัดมวย เป็นเพียงแค่เหตุผลกล้วยๆว่า “เนื่องจากว่าความสนุก” เพียงแค่นั้น ก่อนที่จะทุกอย่างจะเริ่มเมื่อเขาอายุ 10 ปี จากการฝึกอบรมวิชาในโรงยิมละแวกบ้าน

แน่ๆว่าในทีแรกๆที่ เริ่มฝึกหัดวิชาหมัดมวย เขาชอบถูกสบประมาทอยู่ตลอดว่าตัวเล็กกระเปี๊ยกแบบงี้จะไปสู้กับผู้อื่นได้เช่นไร แต่ว่าเมื่อช่วงเวลาผ่านไป พรสวรรค์ของ ก็เริ่มฉายแววขึ้นมา ทำให้คนไม่ใช่น้อยที่เคยละเลย จะต้องหันกลับมามองดูเขาอีกทีในฐานะ “ยอดมวยเด็กตัวจิ๋ว”

สไตล์การต่อยของ เป็น”เดินหน้าฆ่ามัน” เขาเปรียบได้กับบอลไฟยามเมื่ออยู่บนสังเวียน ทดแทนระยะการต่อยที่สั้นกว่าคู่แข่งหลายนิ้วด้วยการเข้าประชิดตัว และก็อาศัยการปลดปล่อยหมัดรัวๆเป็นชุดเข้าใส่ ซึ่งถ้าเกิดคู่แข่งไม่อาจจะสลัดหนีการต่อสู้ในระยะชิดได้ การได้เปรียบเรื่องรูปร่างก็จะหมดความหมายไปในทันทีทันใด

“ในทุกๆยก ผมจะมานะปลดปล่อยหมัดออกไปให้สูงที่สุดเท่าที่ผมจะทำเป็น ด้วยเหตุว่าแขนของผมมันสั้นมากมาย และก็แน่ๆว่าผมจำต้องมีสมาธิอย่างมากตลอดเวลา” ฟิตจัดบุกทุกค่าย

“ผมควรต้องฝึกฝนเรื่องความฟิตให้มากยิ่งกว่าบุคคลอื่น เพื่อได้ออกหมัดเยอะมากๆทดแทนเรื่องรูปร่าง” กล่าวกับ เกวิน อีแวนส์ จากสื่อ The Independent

นับจากเริ่มฝึกซ้อมจนกระทั่งอายุ 17 ปี พูดได้ว่า  เป็นนักมวยสมัครเล่นผู้ไร้เทียมทานอย่างแท้จริง ด้วยเหตุว่าเขามีสถิติชนะการต่อยถึง 198 จาก 199 ไฟต์ ที่ขึ้นชก แพ้ไปเพียงแต่เดียวเพียงแค่นั้น ด้วยเหตุดังกล่าวเมื่ออายุ 18 ปี สัญญาณทุกๆอย่างก็ชี้ว่า พร้อมแล้วในการเทิร์นโปรขึ้นเป็นนักมวยอาชีพ

ระดับอาชีพไฟต์แรกของ เกิดขึ้นในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ปี 1980 โดยคู่ปรปักษ์ของเขาเป็น เฟรเซอร์ พลาติเจส นักต่อยเพื่อนร่วมชาติ ผลเป็น ใช้สไตล์การต่อยที่ตนเองถนัด เดินหน้าปลดปล่อยหมัดใส่ เฟรเซอร์ รัวๆไม่มีจังหวะให้พักหายใจ ทุกอย่างแจ่มแจ้งกว่า กระทั่งเป็นข้างชนะคะแนนไปได้แบบสบายๆ

แต่ในอีก 2 ไฟต์ถัดมา กลับลงเอยด้วยการแพ้แต้ม เขาไม่อาจจะหาจังหวะเข้าประชิดตัวคู่ปรับได้ และก็เป็นตัวเขาเองที่โดนหมัดยาวของคู่ปรับอยู่บ่อย ความพ่ายแพ้สองคราวนี้ทำให้ปัญหาเดิมที่เขาจะต้องพบเจอมาตั้งแต่เด็กเริ่มถูกวิพากษ์ขึ้นมาอีกรอบ

ไม่เสียเวลามานั่งตอบคำถามนี้ เขาใช้ความ “ตัวเล็กใจใหญ่” ของตนพิสูจน์ทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง ลืมความแพ้พ่ายไว้เบื้องหน้าเบื้องหลัง เดินหน้าผลาญคู่ปรับในไฟต์ๆมาไม่ยั้ง คว้าแชมป์ได้ตลอด จนกระทั่งเมื่อผ่านไป 11 ไฟต์สายรัดเอวแชมป์แอฟริกาใต้ รุ่นฟลายเวต ก็ถูกเอามาคาดไว้บนเอวของเขาได้เสร็จ

จากผู้ที่ใครๆต่างพากันดูถูก แต่ว่าขณะนี้ดูเหมือนว่าสังเวียนแอฟริกาใต้จะเล็กไปเสียแล้วสำหรับเจ้าเปี๊ยกจากโซเวโตคนนี้

เมื่อไปสู่ทศวรรษที่ 90 ก็นับว่าเป็น “ยุคทอง” ในทางการเป็นนักมวยของ ภายหลังที่เขาป้องกันแชมป์ระดับประเทศที่แอฟริกาใต้ได้หลายยุค (ถึงแม้ว่าจะมีครั้งที่เขาแพ้กระทั่งเสียสายรัดเอวไปบ้าง แม้กระนั้นก็สามารถชิงกลับคืนมาได้ทุกหน)

นอกจากนั้น ยังได้กลายเป็นนักกีฬาขวัญใจชาวแอฟริกาใต้ทั้งประเทศ เนื่องมาจากนักสู้จากโซเวโตรายนี้มีส่วนผสมอันพอดีที่จะทำให้ใครๆถูกใจเขาได้อย่างไม่ยากเย็นไม่ว่าจะเป็นลีลาท่าทางการต่อยอันดุเดือดตื่นเต้น ร่างกายที่เล็กมากยิ่งกว่ามาตรฐานนักมวยทั่วๆไปหลายนิ้ว รวมทั้งรอยยิ้มบริสุทธิ์ใจที่ชอบปรากฏอยู่บนบริเวณใบหน้าเสมอ

ไฟต์นอกประเทศแรกของ เกิดขึ้นในวันที่ 7 เดือนกันยายน 1991ในMaysfield Leisure Centre เมืองเบลฟาสต์ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ คู่ปรับเป็นนักต่อยขวัญใจเจ้าถิ่น อย่าง แมคออลี่ย์ โดยการต่อสู้คราวนี้มีเข็มขัดแชมป์โลก IBF รุ่นฟลายเวต เป็นพนัน

เมื่อระฆังเริ่มต่อยดังขึ้น ก็เป็นข้างเดินหน้าเข้าพบ ปลดปล่อยหมัดใส่รัวๆตามสไตล์ถนัด เขาจะต้องประชิดตัว ให้เยอะที่สุด ด้วยเหตุว่าคู่ปรับรายนี้มีตอนต่อยยาวกว่าเขาออกจะมากมาย

แต่ไม่ว่าจะกินหมัดของ ไปสักจำนวนกี่ครั้ง แชมป์โลกชาวสหราชอาณาจักรรายนี้ก็ไม่มีการยุบให้มองเห็นเสียเชิง จนกระทั่งท้ายที่สุดก็แปลงเป็น เองที่ไม่มีแรงข้าวต้มไปก่อน โดน ปลดปล่อยหมัดน็อคลงไปนอนกับพื้นสังเวียนในยกที่ 10

ข้างหลังได้ชิมรสชาติที่ความพ่ายแพ้อย่างเต็มที่ ก็เดินทางกลับแอฟริกาใต้ด้วยหัวใจที่ยังไม่ยอมแพ้ เขาตั้งใจว่าจะกลับไปฝึกหัดให้หนักกว่าเดิม ศึกษาความผิดพลาด ปรับปรุงฝีมือให้กล้าหาญขึ้น เพื่อที่วันใดวันหนึ่งตำแหน่งแชมป์โลกที่เคยเป็นเพียงแค่ความฝันจะเปลี่ยนเป็นจริง

ระหว่างที่เตรียมตัวในการขึ้นชิงชนะเลิศโลกอีกที ก็ได้ขึ้นชกกับนักต่อยเพื่อนร่วมชาติอีก 3 ไฟต์ ผลเป็นชนะรวด ก่อนที่จะในปี 1993 ช่องทางชิงชนะเลิศโลกจะเวียนมาบรรจบกับเขาอีกที ครั้งนี้เป็นของสถาบัน WBO รุ่นฟลายเวต ที่มีนักต่อยชาวสกอตแลนด์อย่าง แพท คลินตัน ครองอยู่ และก็สังเวียนเป็น Scottish Exhibition Centre เมืองกลาสโกว์ สกอตแลนด์

เมื่อระฆังดังขึ้น บรรดาผู้ชมในสนามก็ทราบได้โดยทันทีว่า ปัจจุบันนี้ไม่ใช่ผู้เดียวกับเมื่อ 2 ปีกลาย ในตอนที่แพ้อีกแล้ว เขาแข็งขึ้นกว่าเดิม เร็วขึ้นกว่าเดิม ออกหมัดมากยิ่งกว่าเดิม รวมทั้งหมัดหนักกว่าเดิม

กระทั่งในที่สุดเมื่อถึงยกที่ 8 นักต่อยขวัญใจเจ้าถิ่นก็ไม่สามารถทนรับลมพายุหมัดของ ได้อีกต่อไป แพท คลินตัน ลงไปนอนกับพื้นผ้าใบ จนกระทั่งผู้ตัดสินเข้ามาเลิกการต่อย นำมาซึ่งการทำให้ นักต่อยจากเมืองโซเวโต แอฟริกาใต้ ผู้มีส่วนสูงเพียงแค่ 147 ซม.

ได้แชมป์โลกมาถือครองได้เสร็จ แล้วก็แปลงเป็นแชมป์โลกมวยสถาบันหลักที่มีส่วนสูงต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ จนกว่าวันนี้ก็ยังไม่มีผู้ใดสามารภทำลายสถิตินี้ได้

ภายหลังคว้าเข็มขัดแชมป์โลกเส้นแรกได้ ชีวิตในทางนักมวยของ ก็จัดว่าขึ้นลงเขาเป็นเพียงแต่นักมวยเก่ง แต่ว่าไม่ใช่ระดับซูเปอร์สตาร์ ฉะนั้นการเวียนเวียนอยู่กับการปกป้องแชมป์ เสียแชมป์ ได้แชมป์ใหม่อีกที นับว่าเป็นเรื่องปกติ

ผ่านไป 4 ปีภายหลังได้สัมผัสแชมป์โลกเป็นครั้งแรก ในปี 1997 มีหนึ่งที่ทำให้ชื่อของมีชื่อเสียงไปทั่วแผ่นดินอเมริกา มันเป็นที่เขาท้าทายชิงสายรัดเอวแชมป์โลก IBA กับ ไมเคิล คาร์บาฮาล นักต่อยชาวสหรัฐอเมริกันที่จัดว่าเป็นที่รู้จักเลื่องลือพอควร โดยก่อนจะปะทะกับ ไมเคิล มีสถิติการต่อยที่ค่อนข้างสวยงาม ชนะ 45 รวมทั้งแพ้ไปเพียงแค่ 3 ไฟต์เท่านั้น

สังเวียนการต่อสู้คราวนี้เป็น Thomas & Mack Center เมืองลาสเวกัส ประเทศอเมริกา นี่ก็เลยเป็นการไปเยี่ยมแผ่นดินคุณลุงแซมเป็นครั้งแรกในชีวิตของ แล้วก็แน่ๆว่าความบีบคั้นที่เขาจะต้องพบเจอนั้นมากมายก่ายกอง เนื่องจากว่า ไมเคิล เป็นนักต่อยขวัญใจเจ้าถิ่น เสียงเชียร์ในฮอลล์ก็เลยดังลั่น นอกจากนั้นถ้าหากวัดกันตามหน้าเสื่อ ก็มองด้อยกว่ากว่าทุกประการ ไม่ว่าจะเรื่องรูปร่าง อายุที่มากกว่า หรือความถนัดเชิงมวย

เมื่อเสียงระฆังดังขึ้น เป็นข้างเดินเข้าพบในทันที กล่าวได้ว่าเขาไล่ผลาญไม่ยั้งไม่ปลดปล่อยให้ ไมเคิล ได้หายใจหายคอ จากที่เป็นนักต่อยสายปลดปล่อยหมัดมากมายอยู่แล้ว ในนี้ดูอย่างกับว่า จะยิ่งปลดปล่อยหมัดมากมายเป็นพิเศษ โดยมีรายงานว่าเขาปลดปล่อยหมัดเฉลี่ย 135 หมัดต่อยกอย่างยิ่งจริงๆ

“ตลอด 22 ปีในอาชีพนักต่อย ได้ปรับปรุงวิธีการต่อยให้กับรูปร่างของตนเอง เขามีคนฝึกที่ดี มีการปกป้องที่แน่นหนา หัวของเขาขยับตลอดระยะเวลาทำให้จับทางได้ยาก และก็ที่สำคัญเป็นเขาชอบปลดปล่อยหมัดมากยิ่งกว่าคู่แข่งขันเสมอ” ผู้บรรยายในนี้กล่าวถึงตัวตนบนสังเวียนของ

ทั้งคู่คนแลกหมัดกันอย่างสนุก แต่ว่าสุดท้ายดูราวกับว่าหมัดของ จะเข้าเป้ามากยิ่งกว่า ทำให้ในยกที่ 9 เขาก็สามารถส่ง ไมเคิล ลงไปนอนกับพื้นสังเวียน พร้อมทั้งสัญญาณจบการต่อยของกรรมการได้เสร็จ

ระหว่าง กับ ไมเคิล ถือเป็นที่ดุเดือดมากมาย ผู้ชมทางช่อง HBO นับล้านชีวิตรู้สึกประทับใจนักชกจากแอฟริกาใต้ผู้นี้ ไม่ว่าจะด้วยสไตล์การต่อย หรือรูปร่างที่ไม่ถูกจากมาตรฐานนักมวยทั่วๆไป

ส่งผลให้ชื่อของ เลื่องลือในสหรัฐอเมริกาชั่วข้ามคืน โชคร้ายที่เวลานี้ อายุ 35 ปี แล้ว เพราะหากเขาหนุ่มกว่านี้ ชัยในนี้อาจต่อยอดให้กับเขาได้อีกมากมาย