ส่องบรรยากาศบ้าน ภายหลังที่ “แต้ว” สุดาพร สีสอนดี กำปั้นสาวคนไทยสร้างประวัติศาสตร์เปลี่ยนเป็นนักมวยหญิงคนแรกของไทย

ส่องบรรยากาศบ้าน ภายหลังที่ “แต้ว” สุดาพร สีสอนดี กำปั้นสาวคนไทยสร้างประวัติศาสตร์เปลี่ยนเป็นนักมวยหญิงคนแรกของไทยซึ่งสามารถถือเหรียญรางวัลในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ (การันตีเหรียญทองแดง) มาครองได้สำเร็จ

โดยในรอบ 8 คนในที่สุด นักชกสาววัย 29ปี ดีกรีเหรียญเงิน เอเชียนเกมส์ 2018 สามารถเอาชนะ แคโรไลน์ ดูบัวส์ นักชกสาวดาวรุ่งจากสหราชอาณาจักร ไปได้แบบลุ้นระทึก 3-2 เดินหน้าผ่านไปสู่รอบรองฯ

มวยสากลสมัครเล่น โอลิมปิกเกมส์ 2020 รุ่นไลท์เวต ซึ่งข้างหลังเกมการชก กำปั้นชาวจังหวัดอุดรธานี ได้เปิดใจถึงไฟต์นี้ว่า “วินาทีที่ผู้ตัดสินยกมือให้ชนะ หนูพอใจกระทั่งพูดอะไรไม่ออกเลย มันเป็นความฝันของหนู

นาทีนั้นคิดถึงบ้าน นึกถึงบิดา ซึ่งถ้าเกิดไม่มีพ่อ หนูเองก็คงจะไม่มีทางนี้ เพราะพ่อเป็นคนบังคับให้หนูต่อยมวย” “หากได้โอกาสพบท่าน หนูต้องการจะพูดว่า หนูทำเป็นแล้ว ถ้าเกิดพ่อยังรับทราบ หนูขอให้พ่อภูมิใจในตัวหนูนะค่ะ

หนูทำวันนี้ได้แล้ว แต่ว่าเสียดาย ที่ท่านเสียไปตั้งแต่เมื่อ 7 ปีที่ผ่านมา” ด้านบรรยากาศที่บ้านของสุดาพร ที่จังหวัดอุดรธานี มี นางเลือน สีสอนดี คุณแม่, นายปรินทร สีสอนดี น้องชาย รวมทั้ง นางสาวคณารักษ์ นาควงศ์ แฟนสาว

พร้อมกับเพื่อนสาวคนสนิทร่วมรับชม และลุ้นกันอย่างใจจดใจจ่อ นอกเหนือจากนี้ยังมีเพื่อนบ้านมาร่วมรับชมการถ่ายทอดสดที่บ้านกันอย่างครึกครื้นวันนี้คึกคัก แม้กระนั้นผู้ที่ร่วมเชียร์ จะต้องสามใส่หน้ากากอนามัย

เพื่อคุ้มครองป้องกันการแพร่เชื้แไวรัสโควิด 19 แต่ว่าพอน้องแต้วออกหมัดทีไร เรียกเสียงเฮจากชาวบ้านทุกคราว พร้อมแม่และก็แฟนสาว ซึ่งข้างหลังความมีชัยคุณแม่ กล่าวสั้นๆว่า “ดีใจมากๆ” พร้อมทั้งะร้องไห้ในกับชัยชนะของลูกในครั้งนี้

เวลาที่ น้องชาย เปิดเผยว่าก่อนหน้าพี่แต้วจะขึ้นสังเวียนจนได้ไปจุดธูปบอกพ่อ รวมทั้งบนบานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอให้พี่แต้วชกชนะ รอบนี้รวมทั้งขอให้ได้เหรียญทอง เมื่อผลออกมาแล้วรู้สึกดีใจมากที่พี่ชนะ

ด้านแฟนสาว คนสนิทสนมของน้องแต้ว เผยออกมาว่า ขอบพระคุณชาวไทยทุกคน ที่ส่งแรงใจแรงเชียร์พี่แต้ว วันนี้พี่แต้วทำสำเร็จแล้วขณะนี้ ได้เหรียญทองแดงแล้ว ซึ่งการต่อยคราวถัดมาพี่แต้วจะต่อย เพื่อเข้าไปชิงเหรียญทอง

ซึ่งส่วนตัวแล้วแน่ใจว่าพี่แต้ว จะทำเป็น ขอให้พี่แต้วทำให่ได้ อย่างวันนี้ชนะได้เหรียญทอง มาฝากชาวไทย แล้วก็ครอบครัว วิจารณ์มวยไทยวันนี้

สุดาพรขึ้นรับเหรียญทองแดงโอลิมปิกมวยคนแรกของประเทศไทย

ส่องบรรยากาศบ้าน สุดาพรยอดกำปั้นสาวขวัญใจคนไทย ขึ้นรับเหรียญรางวัลชนะเลิศลำดับที่ 3 สำหรับเพื่อการแข่งกีฬาชกมวยสากลสมัครเล่น รุ่น60 โลหญิง นับเป็นนักมวยสากลสมัครเล่นหญิงคนแรกที่ได้เหรียญรางวัลจากการแข่งขันชิงชัยกีฬาโอลิมปิก

สำหรับเหรียญทองเป็นของ เคลลี แอนน์ แฮร์ริงตัน นักต่อยสาวทีมชาติไอร์แลนด์ ที่เอาชนะลูกผู้หญิงพรได้จวนเจียนในรอบรองชนะเลิศ โดยในรอบชิงแชมป์เอาชนะ แบร์ทริซ แฟร์ไรรา จากบราซิลได้ แล้วก็เหรียญทองแดงอีกหนึ่งคน

เป็น มิรา เพียงพอตโคเนน นักมวยจากประเทศฟินแลนด์ รู้จักสุดาพร สีสอนดี นักมวยสากลหญิง ผู้คว้าเหรียญโอลิมปิก เปิดประวัติ อาสาสมัครทหารพรานหญิง “สุดาพรนักกีฬามวยสากลหญิง คว้าเหรียญ โอลิมปิกที่ญี่ปุ่น

สู้เต็มกำลังชนะใจคนไทย ถึงแม้ สุดาพรจะแพ้นักชก จากไอร์แลนด์ ในรอบตัดเชือก พลาดชิงเหรียญทอง แม้กระนั้นคว้าเหรียญทองแดงโอลิมปิก 2020 กลับไทย 3 ส.ค.ข่าวดีสำหรับชาวไทย เมื่อสุดาพร นักกีฬามวยสากลหญิง รุ่น60 กิโลกรัม

สำหรับในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2020 ญี่ปุ่น สามารถเอาชนะ นักมวยสากลหญิงจากสหราชอาณาจักรได้ ทำให้ สุดาพรรับรอง “เหรียญทองแดง” เป็นอย่างต่ำ ซึ่งเป็นเหรียญประวัติศาสตร์แรก ของมวยสากลหญิงไทย ในโอลิมปิกเกมส์

สำหรับ อาสาสมัครทหารพรานหญิง สุดาพรหรือ แต้วเกิดตอนวันที่ 4 ตุลาคม 2534 ที่ อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี สุดาพรจบการศึกษาในระดับปริญญาตรี จากคณะศึกษาศาสตร์จากสถาบันการบริหารร่างกายวิทยาเขตสุโขทัย

ปัจจุบันนี้กำลังศึกษาระดับ ปริญญาโท ภาควิชาศึกษาเล่าเรียนศาสตรมหาบัณฑิต เอก สังคม ศาสนา แล้วก็วัฒนธรรม วิทยาลัยทองสุข “สุดาพรได้รับการบรรจุเป็น อาสาสมัครหน่วยสอดแนมหญิง ที่หน่วยบัญชาการนาวิกโยธินในปี 2556

เดี๋ยวนี้ขึ้นตรงต่อ กองร้อย ทหารพรานนย.ที่ 524 ชุดควบคุมทหารพรานนย.ที่ 2 ทีมเฉพาะกิจทหารพรานนย. อาสาสมัครทหารพรานหญิง สุดาพรได้ร่วมทีมมวย กองทัพเรือโดยร่วมการประลองในระดับชาติ

โดยเป็นนักกีฬาของกองทัพเรือ ในทีมสโมสรราชกองทัพเรือ กระทำแข่งขันรายการมวยสากล ชิงแชมป์แห่งประเทศไทย ตั้งแต่ปี2556 ได้รางวัลชนะเหรียญทอง ในระดับประเทศไทย ในรุ่นที่ขึ้นสังเวียน

ทำให้ทีมมวยของกองทัพเรือ สโมสรราชกองทัพเรือ สามารถครอบครองถ้วยคะแนน รวมทีมหญิง และก็ทีมสโมสรราชกองทัพเรือสามารถครอบครองถ้วยคะแนนรวมทั้ง 8 สมัยต่อเนื่องกันจนกระทั่งตอนนี้ สมคำล่ำลือ