เชียร์ให้กึกก้อง ปักหมุดที่ประเทศไทยอีกรอบในกุมภาพันธ์กับศึกวันไฟท์ไนท์ 7 เสาร์ 25 เดือนกุมภาพันธ์ เวทีลุมพินี

เชียร์ให้กึกก้อง จอห์น vs ฟาบริซิโอ 2 ที่จะถ่ายทอดสดจากสนามแข่งมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในตอนไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับตอนเช้าเวลา 08.00 น. ของวันเสาร์ที่ 25 เดือนกุมภาพันธ์66 ตาม เวลาในประเทศไทย แฟนคลับกีฬาคนไทยจัดแจงเสียงเชียร์ให้พร้อม เพราะว่าถึงคิว “ซ้ายดารา” ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม แชมป์โลกวันมวยไทยรุ่นเธอร์เวต

ผู้ครอบครองรางวัล “นักมวยไทยเยี่ยมที่สุด” รวมทั้ง “ตัวเด่นที่ปี 2565” จะลงศึกคุ้มครองปกป้องบัลลังก์ทีแรกซึ่งๆหน้าแฟนมวยคนไทย ภายหลังสามารถสร้างการเกิดโค่นบัลลังก์แชมป์เก่า “เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี” ที่ได้รับตำแหน่งมานานนับเป็นเวลาหลายปี ผงาดเป็นแชมป์โลกวัน มวยไทยรุ่นเฟเธอร์เวต อย่างเต็มองอาจภาคภูมิ ในช่วงเวลานี้

ถึงเวลาตะวันฉาย จะได้พิสูจน์ฝีมือในฐานะแชมป์โลก โดยก่อนหน้านี้ศึกวันไฟท์ไนท์7 มีระบุจัดขึ้นที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย แต่ว่าเพื่อเอาอกเอาใจแฟนมวยคนประเทศไทยที่ตั้งตาคอยจะได้มองเห็นตะวันฉาย ขึ้นชกอีกทีในศึกครั้งสำคัญ ก็เลยตกลงใจย้ายกลับมาจัดที่ลุมพินี เวทีไทยอันมีเกียรติซึ่งคราวหนึ่งตะวันฉาย ก็เคยสร้างชื่อจากเวทีนี้มาก่อนเหมือนกัน กำลังจะมาถึง

โดยคราวนี้ตะวันฉาย จะได้เผชิญหน้ากับ “จามาล ยูซูเพียงพอฟ” นักต่อยหมัดหนักจากประเทศตุรกี ผู้ท้าแข่งชั้นสองของแรงกิงรุ่นนี้ในฐานะคู่รองของรายการ และก็ได้โชว์ฟอร์มเข้มแข็งเอาชนะนักมวยแถวหน้าอีกทั้งไทยและก็เทศมาแล้วหลายๆคน รวมทั้งการเอาชนะน็อกช็อกโลกยอดตำนานมวยไทย “ยอดแสนไกล ไอเว.แฟร์เท็กซ์” แล้วก็ปัจจุบันก็ชนะมวยไทยสายดุ “โจ ณัฐวุฒิ” มาได้อย่างกินขาด

ส่วนคู่เอกของรายการเป็นการกลับมาจัดการดรามาที่ค้างคาระหว่างสองนักสู้ร่วมสายโลหิตแซมบา “จอห์น ลินีเคอร์” แล้วก็ “ฟาบริซิโอ อานดราเด” ที่จบลงแบบไม่เป็นผลการแข่งขันชิงชัย เมื่อเดือนตุลาคม65 ทั้งสองจะลงชิงชนะเลิศโลกวันรุ่นแบนตัมเวต ในข้อตกลงการต่อสู้แบบผสม อีกที เพื่อวินิจฉัยหาผู้ชนะที่จริงจริงขึ้นครองบัลลังก์ช่องว่างอยู่

นอกเหนือจากนั้น ยังมี “เสมาเพชร แฟร์เท็กซ์” ที่จะเปิดฉากลุยกติกาคิกบ็อกซิ่งรุ่นแบนตัมเวต กับ “จาง เฉิงหลง” นักต่อยจากดินแดนมังกรที่เคยประมือกับ “เพชรทนง เพชรเฟอร์กัส”

ลูกศิษย์รถถัง “สะแกงาม จิตรเมืองนนท์” ขอใช้วันลุมพินี รีแมตช์สะสางดรามา “เสือใหญ่”

เชียร์ให้กึกก้องขอจัดการดรามาให้หายขุนข้องหมองใจ “รถถังจูเนียร์” สะแกงาม จิตรเมืองนนท์ นักมวยจอมลุย พร้อมพบ “ยักษ์แคระจูเนียร์” เสือใหญ่ ช.ห้าพยัคฆิน ในศึกวินิจฉัยภาค 3 ของทั้งสอง บนเวทีวันลุมพินี นัดหมายครั้งแรก วันศุกร์ที่ 20 เดือนมกราคม 2566 สองไฟต์แรกลำดับที่สองมวยจอมบู๊ต่างอายุพบกัน สะแกงามเป็นข้างชนะน็อกและก็ชนะคะแนน เป็นลำดับ

แต่ว่าใจความสำคัญดรามาเกิดขึ้นสำหรับการเจอะกันครั้งลำดับที่สองของพวกเขา เมื่อกรกฎาคมปีที่ผ่านมา โดยแฟนมวยเล็กน้อยคิดว่าเสือใหญ่ ทำผลงานได้ดีมากยิ่งกว่าควรจะเป็นข้างได้รับการยกมือเป็นผู้ชนะมากยิ่งกว่า ทำให้สะแกงาม มั่นหมายที่จะใช้การต่อยกับเสือใหญ่ ในพิกัดแคตช์เวต 112 ปอนด์ บนเวทีนัดหมายครั้งแรก ศึกวันลุมพินี วันศุกร์ที่ 20 เดือนมกราคมนี้

พิสูจน์ฝีมือเพื่อลบข้อครหาจากทุกฝ่าย “ผลของการต่อยในไฟต์ปัจจุบันที่พวกเราเจอะกัน เชือดกันแค่นิดเดียวจริงๆผลของการวินิจฉัยที่ออกมา ผมนับว่าตนเองประพฤติตามหน้าที่ไปแล้ว ทำให้ผมตั้งอกตั้งใจว่าการพบกับพี่เสือใหญ่ ในศึกวันลุมพินี ในวันที่ 20 เดือนมกราคมนี้ ผมจะก่อให้แฟนมวยทุกคนหายค้างคาใจ ผมพร้อมฝ่าตั้งแต่เริ่ม” นักต่อยชายหนุ่มจากเมืองเพชรบูรณ์

ที่เป็นรุ่นน้องร่วมค่ายมวยกับ “รถถัง จิตรเมืองนนท์” ​แชมป์โลกวันรุ่นฟลายเวต แล้วก็มีสไตล์การต่อยที่บู๊ดุเดือดเช่นกัน จนถึงทำให้ถูกตั้งชื่อนางแฝงว่า รถถังจูเนียร์ลงทุนเดินทางไปเก็บเนื้อเก็บตัวฟิตฝึกซ้อมแบบเข้มข้นที่จังหวัดภูเก็ตเพื่อศึกนี้โดยยิ่งไปกว่านั้น โดยเจ้าตัวเล่าว่า “ตอนเวลาเช้าตารางฝึกของผมจะหนักกว่าตอนเวลาบ่าย เริ่มตั้งแต่ออกวิ่ง 10 กม.

ก่อนที่จะเริ่มกระโดดเชือก, ฝึกปล้ำ, เตะเป้า แล้วก็ยกน้ำหนักเสริมกล้าม ผมยังจำเป็นต้องปรับพฤติกรรมให้คุ้นเคยกับนวมแบบเปิดนิ้ว ด้วยเหตุว่าจำต้องพบคู่ต่อยที่หมัดหนัก แม้กระนั้นการต่อยในศึกวันลุมพินี จำเป็นต้องออกอาวุธมากยิ่งกว่าการต่อยมวยไทยแบบ 5 ยก ทำให้มีแรงเยอะแค่ไหนผมจำต้องใส่เต็มกำลัง แม้กระนั้นก็จำต้องไม่ประมาทด้วยนะครับ” https://www.buffalokendo.com